Search

การก่อตัวของปรัชญาปฏิฐานนิยมทางกฎหมายในสังคมไทย (ส...

  • Share this:

การก่อตัวของปรัชญาปฏิฐานนิยมทางกฎหมายในสังคมไทย (สมัยรัชกาลที่ 5)

การกำเนิดแห่งปรัชญากฎหมายปฏิฐานนิยมในช่วงปฏิรูปของการปกครองไทยมีเหตุปัจจัยเกี่ยวข้องหลายประการ อีกทั้งเหตุปัจจัยนั้นยังมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างละเอียดอ่อน นับเนื่องจากเหตุปัจจัยด้านการคุกคามของตะวันตกต่อเอกราชของชาติ อิทธิพลของวัฒนธรรมความคิดตะวันตกจึงแพร่หลายในกลุ่มชนชั้นนำ อันรวมทั้งความคิดสมัยใหม่แบบวิทยาศาสตร์นิยมหรือปฏิฐานนิยม (Positivism) (ซึ่งนักคิดปฏิฐานนิยมที่มีอิทธิพลขณะนั้น คือ เจอเรมี เบนแธม หรือ จอห์น ออสติน) การต่อสู้ภายในเพื่อสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิและที่สำคัญคือการปฏิรูปกฎหมายเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องระบบกฎหมายไทย เพื่อต้องการสิทธิสภาพนอกอาณาเขตทางการศาลคืนมา จากการที่ได้ลงนามทำสนธิสัญญาเบาว์ริ่งกับอังกฤษด้วยเหตุผลที่ว่ากฎหมายไทยในสมัยนั้นป่าเถื่อน ล้าสมัย เช่น การพิสูจน์ด้วยการดำน้ำ การลุยไฟ เป็นต้น ดังนั้นคนอังกฤษเข้ามาอยู่ในไทย กระทำความผิดในไทยให้ขึ้นศาลอังกฤษ (ซึ่งมาตั้งอยู่ในไทย) เท่ากับว่าไทยยอมสละสิทธินี้เรียกว่าสิทธิสภาพนอกอาณาเขตทางศาล กลายเป็นแม่แบบที่ประเทศอื่นๆได้ทำสนธิสัญญากันอย่างรวดเร็วรวมอังกฤษด้วยกัน 15 ประเทศ ประกอบด้วย อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เดนมาร์ก โปรตุเกส เนเธอแลนด์ เยอรมนี สวีเดน นอร์เว เบลเยี่ยม อิตาลี ออสเตรีย-ฮังการี สเปน รัสเซียและญี่ปุ่น
เนื้อหาของการปฏิรูปกฎหมายประกอบทั้งการจัดระเบียบศาลให้เป็นแบบตะวันตกโดยการตั้งกระทรวงยุติธรรม การจัดและเลือกระบบกฎหมายแบบจำลองตะวันตก ซึ่งจะสืบเนื่องไปถึงการชำระสะสางกฎหมายโดยยกร่างตัวบทหรือประมวลกฎหมายสมัยที่สำคัญอีกประการ คือ การสร้างโรงเรียนกฎหมายเพื่อสอนนักกฎหมายที่สามารถใช้กฎหมายในระบบใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อพิจารณารายละเอียดของการปฏิรูประบบกฎหมายที่นับว่ามีปัญหาอยู่ในปัจจุบัน น่าจะมาจากปัญหาของการปฏิรูประบบกฎหมายไทย อยู่ 2 ประการ คือ ปัญหาอันเกี่ยวกับการขาดแคลนบุคคลทำงานในระบบกฎหมายใหม่กับปัญหาจากการยินยอมจากรัฐบาลต่างประเทศ ดังนี้
1. ปัญหาอันเกี่ยวกับการขาดแคลนบุคคลทำงาน
ประเด็นนี้น่าจะถือเป็นมูลเหตุอันสำคัญหนึ่งที่นำไปสู่การ “นำเข้า” ปรัชญากฎหมายตะวันตกแบบปฏิฐานนิยม เป็นอุปสรรคในด้านกำลังคนทำให้เกิดความจำเป็นในการจ้างนักกฎหมายต่างประเทศเข้ามาทำงาน และที่สำคัญคือ การส่งนักเรียนไทยไปศึกษาในต่างประเทศ โดยจำเพาะในช่วงแรก ๆ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดให้พระราชโอรสส่วนมากไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ จากจุดนี้เองที่นักปรัชญาปฏิฐานนิยมทางกฎหมาย ซึ่งมีอิทธิพลในแวดวงนิติศาสตร์ของอังกฤษ (English Jurisprudence) ได้มีโอกาสข้ามน้ำข้ามทะเลมาปรากฏในประเทศไทย โดยผ่านทางนักเรียนไทยรุ่นแรกที่ออกไปศึกษาในประเทศอังกฤษ
2. ปัญหาจากการยินยอมจากรัฐบาลต่างประเทศ
เนื่องจากในสมัยนั้นการออกกฎหมายในส่วนที่ใช้บังคับชาวต่างประเทศ จำเป็นที่ต้องให้รัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องด้วยยินยอม (เพราะเราสูญเสียสิทธินอกอาณาเขตทางศาลอยู่ ประเทศที่อยู่เหนือสิทธิสภาพนอกอาณาเขตทางศาล จึงต้องเข้ามาเกี่ยวข้องในการยกร่างกฎหมายด้วย)


Tags:

About author
not provided
ปัจุบัน พ้นจากการโมฆะบุรุษ รองศาสตราจารย์ประจำ คณะนิติศาสตร์
View all posts